ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)
Bookmark and Share

วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2552

รัตตัญญูชน"กรุณา กุศลาสัย"ผู้จากไป

รัตตัญญูชน"กรุณา กุศลาสัย"ผู้จากไป


 

        ครูบาอาจารย์ทางตัวหนังสือของผมอีกท่านหนึ่ง  "กรุณา  กุศลาสัย"  ท่านก็สิ้นเหตุปัจจัยแห่งชีวิตจากภพ-จากชาตินี้ไปแล้วเมื่อวาน  (๑๔  ส.ค.๕๒)  "ท่านจันทร์"  ฝากก๊อบปี้ข้อความหนึ่งมากับนักข่าวถึงผม  เป็นข้อความด้วยตัวพิมพ์ดีดเมื่อ  ๒๐  กว่าปีที่แล้วเก็บไว้  คงจะถ่ายสำเนามาหลายทอด   ในฉบับที่ผมได้รับตัวอักษรจึงค่อนข้างจะชุ่มหมึก  ผิด-ถูกอย่างไรอภัยด้วย  ผมจะค่อยๆ  แกะให้อ่านกัน  ดังนี้

     คำขอร้องเกี่ยวกับการตายของพ่อ

     ถึง  เกษ  ยุ้ย  และ  กือ  ลูกรักทั้งสามคน

     ด้วยพ่อได้คำนึงถึงวัยและสังขารของตนเองเห็นว่า  ความชราได้เข้ามาครอบงำพ่อทั้งในด้านรูปธรรมและนามธรรม  ไม่ควรจะตั้งอยู่ในความประมาท  จึงใคร่ขอร้องลูกทั้งสามคน  ทั้งโดยส่วนตัวแต่ละคน  และโดยส่วนรวมร่วมกันทั้งสามคน  ให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้  ในกรณีที่พ่อถึงแก่ความตาย

     ๑.ให้รีบติดต่อแจ้งการตายต่อเขตท้องที่ภายใน  ๒๔  ชั่วโมง  เพื่อขอมรณบัตร  การขอมรณบัตรต้องนำทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนของพ่อไปแสดง  (พ่อได้ถ่ายสำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนไว้เรียบร้อย  และได้มอบไว้กับลูกแต่ละคน  คนละ  ๑  ชุดแล้ว)

     ๒.โดยที่พ่อได้อุทิศตนเป็นวิทยาทาน  ขอให้แจ้งการตายให้เจ้าหน้าที่ประจำภาควิชากายวิภาคศาสตร์  โรงพยาบาลศิริราช  ทราบ-ภายใน  ๒๔  ชั่วโมง  (โทรศัพท์หมายเลข  ๔๑๑-๒๐๐๗  หรือ  ๔๑๑-๐๖๔๑-๙  ต่อ  ๓๐๕,  ๓๐๗,  ๓๑๒)  เจ้าหน้าที่จะมาฉีดยารักษาศพ  และรับศพไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาล

     ๓.หากจะทำพิธีทางศ่าสนาให้พ่อ  ขอให้ใช้สถานที่วัด  ซึ่งจะเป็นวัดใดก็แล้วแต่จะสะดวก  พิธีนั้นขอให้เรียบง่าย  ไม่ต้องนำศพมาจากโรงพยาบาล  หากให้ใช้รูปถ่ายของพ่อซึ่งพ่อได้จัดพิมพ์ขยายไว้เรียบร้อยแล้ว  ตั้งแทนหีบศพ  พิธีไม่ควรจะยืดเยื้อเกิน  ๓  วัน  และควรจะสิ้นสุดลงด้วยการฟังเทศน์และทำบุญเลี้ยงพระตามประเพณี

     ๔.หลังจากเสร็จพิธีทางศาสนาแล้ว  ขอให้ลงแจ้งความข่าวการตายของพ่อในหนังสือพิมพ์รายวันเป็นเวลา  ๗  วันติดต่อกัน  โดยมีข้อความต่อไปนี้

     "นายกรุณา  กุศลาสัย  ถึงแก่กรรมด้วยโรค...เมื่อวันที่...เดือน...พ.ศ...รวมอายุได้...ปี  เจ้าภาพได้จัดการศพเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่...เดือน...พ.ศ...ผู้ตายประสงค์ให้เรียนให้ผู้เคารพนับถือทราบทั่วกันโดยแจ้งความนี้  และขอประทานอภัย  หากได้ล่วงเกินท่านผู้ใดด้วยกาย  วาจา  และใจ  ในระหว่างที่มีชีวิตอยู่"

     หวังว่าลูกทั้งสามคนคงจะช่วยสงเคราะห์พ่อเป็นครั้งสุดท้ายด้วยการปฏิบัติให้คำขอร้องข้างต้นของพ่อลุล่วงไปโดยดี

                                             กรุณา กุศลาสัย

                                          (นายกรุณา กุศลาสัย)

                                        วันที่ ๑๓ เดือน มิถุนายน พ.ศ.๒๕๒๙

     ครับ...ก็คงไม่ต้องอธิบายอะไรอีก  ท่านอาจารย์กรุณาถึงแก่กรรมด้วยเสื่อมสภาพสังขารตามวัย  ๘๙  ปี  ทางญาติทำพิธีบำเพ็ญกุศลให้ท่านในวันนี้  คือวันเสาร์ที่  ๑๕  ส.ค.ที่วัดเครือวัลย์วรวิหาร   ถนนอรุณอัมรินทร์  บางกอกใหญ่  ก็อยู่ในละแวกเดียวกับวัดระฆังฯ  วัดอรุณฯ  กรมอู่ทหารเรือนั่นแหละ

     ท่านเป็นศิลปินแห่งชาติ  สาขาวรรณศิลป์  เมื่อปี  ๒๕๔๖  แต่ที่สำคัญกับผมคือ  ผมหมั่นเพียรเรียน-อ่าน  ได้ความรู้  ได้ความคิดจากงานเขียน  งานแปลหนังสือของท่านมาแต่เด็ก  แต่มิมีวาสนาได้พบพานกับท่านเลย  และเมื่อทราบว่าถึงคราที่ท่านต้องละคราบสังขารจากภพนี้ไปตามกาลอันควรแล้ว

     ศิษย์จากตัวหนังสือคนนี้  ขอคารวะแทบเท้า  "ส่งอาจารย์"  ตรงนี้ด้วยครับ!

http://www.thaipost.net/news/150809/9303

--
      Weblink
http://ilaw.or.th
www.patani-conference.net
http://www.thaihof.org
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://elibrary.nfe.go.th
http://www.thaisara.com
http://www.rmutr.ac.th
http://www.bedo.or.th/default.aspx
http://weblogcamp2009.blogspot.com
http://seminarmon.blogspot.com
http://seminartue.blogspot.com
http://seminarwed.blogspot.com
http://seminarthu.blogspot.com
http://seminarfri.blogspot.com
http://seminar1951.blogspot.com
http://seminardd.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น