ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)
Bookmark and Share

วันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2553

ขยะเกลื่อน

วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 19 ฉบับที่ 7048 ข่าวสดรายวัน


ขยะเกลื่อน


คอลัมน์ ท้องถิ่นชวนรู้




ถนน สายบ้านนาบอนไปบ้านกล้างปลา ต.ชัยพฤกษ์ อ.เมืองเลย ห่างจากบ้านนาบอน 200 เมตร ที่ริมแม่น้ำเลยมีการนำเศษขยะเศษแก้วไปทิ้งไหลลงในแม่น้ำเลย ทำลายสภาพสิ่งแวดล้อม ชาวบ้านเรียกร้องให้อบต.ชัยพฤกษ์ แก้ไขเป็นการด่วน


หน้า 28


http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd2NtOHdOakUzTURNMU13PT0=&sectionid=TURNeE13PT0=&day=TWpBeE1DMHdNeTB4Tnc9PQ==
 
โปรดอ่านบล็อก
http://www.pridiinstitute.com
http://www.nakkhaothai.com
http://apps.facebook.com/blognetworks/index.php
http://www.roundfinger.com/
http://twitter.com/sweetblog
http://twitter.com/oknewsblog
http://twitter.com/okblogger
http://twitter.com/sat191
http://www.pacc.go.th/
http://twitter.com/okblogchan
http://twitter.com/sun1951
http://twitter.com/smeblogger
http://twitter.com/seminarblog
http://twitter.com/sunnewsblog
http://twitter.com/okworldblog
http://twitter.com/ktblogger
http://twitter.com/sundayblog
http://twitter.com/mondayblog
http://twitter.com/tuesdayblog
http://twitter.com/wednesdayblog
http://twitter.com/thursdayblog
http://twitter.com/fridayblog
http://twitter.com/saturdayblog
http://www.deepsouthwatch.org/node/687
http://www.tu.ac.th/org/ofrector/tu_council/record/nopporn.htm
http://www.visalo.org/

วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2553

เงิน 70,000 เหรียญหายไปไหน?

วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 33 ฉบับที่ 4191  ประชาชาติธุรกิจ


เงิน 70,000 เหรียญหายไปไหน?




คณะ กรรมาธิการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้รับเรื่องร้องเรียนในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมาว่า มีบริษัทผู้รับสัมปทานขุดเจาะและผลิตน้ำมันในพื้นที่อ่าวไทยร่วมกันปล่อยน้ำ ที่มีสารปนเปื้อนอันตรายลงสู่ทะเล เป้าหมายหลักของการร้องเรียนในครั้งนั้นอยู่ที่บริษัท นิวคอสตอล (ประเทศไทย) จำกัด ที่ออกมายืนยันกับกรรมาธิการถึงความถูกต้องในการดำเนินการขุดเจาะน้ำมันว่า ได้ดำเนินการตามเงื่อนไขของแบบประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) และยังมีเจ้าหน้าที่จากภาครัฐคือกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติกับกรมควบคุมมลพิษ เข้าสำรวจกระบวนการผลิตของบริษัทอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปถึงคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรมนั้น บริษัทได้มี "ปัญหา" กับชาวประมงในพื้นที่มาก่อนหน้านี้แล้ว โดยบริษัทยินยอมที่จะจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง (ชาวประมง) จากการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมในพื้นที่ โดยจ่ายผ่านไปยังสมาคมประมงสงขลา ประมาณ 70,000 เหรียญ/เดือน

แต่การจ่ายเงินชดเชยดังกล่าว เข้าใจว่ามีผู้ได้รับผลกระทบได้รับค่าชดเชยอย่าง "ไม่ทั่วถึง" ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ถูกฟ้องขึ้นมาเมื่อมีการนำคณะเข้าเยี่ยมชมการผลิตที่ แท่นผลิตน้ำมันของบริษัทนิวคอสตอล เมื่อเร็ว ๆ นี้ ปรากฏว่ามีตัวแทนชาวประมงออกมาเรียกร้องถามหาตัวเงิน 70,000 เหรียญสหรัฐ ว่ามีการจ่ายออกไปโดยบริษัทนิวคอสตอลจริงหรือไม่

กรณีนี้ ตัวแทนของบริษัทนิวคอสตอลได้ชี้แจงว่า ได้ส่งมอบเงินจำนวนดังกล่าวไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาแล้ว ทุกเดือน เพื่อทำหน้าที่กระจายเงินดังกล่าวต่อไปยังผู้ได้รับผลกระทบ คาดว่าชาวประมงบางส่วนอาจไม่ได้รับค่าชดเชยดังกล่าว เพราะไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับสมาคมประมงสงขลาไว้ จึงไม่สามารถตรวจสอบได้ครบถ้วน ในขณะที่ทางจังหวัดสงขลาได้ระงับการเบิกจ่ายวงเงินดังกล่าวไว้ก่อน เพื่อแก้ปัญหาการร้องเรียนนี้ให้แล้วเสร็จ


หน้า 6
http://www.prachachat.net/view_news.php?newsid=02inv05110353&sectionid=0203&day=2010-03-11

--
Web link
http://www.edtguide.com/SuanplooThaiMassage_486629
http://www.victam.com
http://weblogcamp2009.blogspot.com
http://www.niwatkongpien.com
http://sundara21.blogspot.com
http://www.educationatclick.com
http://www.pwdom.com/v1/
http://cloudbookclub.blogspot.com
http://blogok09.blogspot.com
http://thairaptorgroup.com/TRG/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=2049
http://www.ias.chula.ac.th/Thai/modules.php?name=NuCalendar

วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2553

"ความกลัว"ถ่ายทอดกันได้

วันที่ 08 มีนาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 19 ฉบับที่ 7039 ข่าวสดรายวัน


"ความกลัว"ถ่ายทอดกันได้





"แมงมุม" เป็นสัตว์ที่คนกลัวรองลงมาจาก "งู" นักวิทยาศาสตร์จึงหาคำตอบว่าความกลัวงูและแมงมุมถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกได้หรือ ไม่ โดยจับ จิ้งหรีดที่กำลังท้องอยู่ในตู้เดียวกันกับแมงมุมพันธุ์หมาป่า (วูล์ฟ สไปเดอร์) ที่ล่าจิ้งหรีดเป็นอาหาร แต่ใช้ขี้ผึ้งหุ้มเขี้ยวแมงมุมไว้เป็นการป้องกันภัยให้จิ้งหรีด

เมื่อ แม่จิ้งหรีดวางไข่และมีจิ้งหรีดออกมาเป็นตัวแล้ว ปรากฏว่าลูก จิ้งหรีดที่แม่เคยอยู่ร่วมตู้กับแมงมุมจะวิ่งหาที่ซ่อนและไม่ออกมาเพ่นพ่าน ในตู้เลี้ยงมากกว่าลูกจิ้งหรีดที่แม่มันไม่เคยเห็นแมงมุมถึงร้อยละ 113 เพียงแค่เห็นใยหรือมูลแมงมุม ลูกจิ้งหรีดที่มีแม่อยู่ร่วมตู้กับแมงมุมก็กลัวเสียแล้ว มันจะทำตัวนิ่งๆ ไม่ขยับเขยื้อนเพื่อไม่ให้แมงมุมเห็น แสดงให้เห็นว่ามีการถ่ายทอดความกลัวจากแม่สู่ลูกตั้งแต่อยู่ในท้อง ซึ่งนักวิจัยคาดว่าเมื่อแม่มีความเครียดก็จะหลั่งฮอร์โมนออกมา ซึ่งมีอิทธิพลต่อพัฒนาการของตัวอ่อนในท้องหรือในไข่ได้


หน้า 29

http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROMFpXTXdOREE0TURNMU13PT0=&sectionid=TURNeU5nPT0=&day=TWpBeE1DMHdNeTB3T0E9PQ==
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.thaifreedompress.blogspot.com/
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/ pwd9
http://ktblog1951.blogspot.com/ pwday
http://newsblog9.blogspot.com/ news
http://bloghealth99.blogspot.com/ health
http://labour9.blogspot.com/ labour
http://www.media4democracy.com/th/
http://www.youngtelecom.org/
http://www.logex.kmutt.ac.th/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html
http://www.asianbarometer.org/newenglish/introduction/default.htm
http://www.isriya.com/node/2809
/wordcamp-bangkok-2009-pool-party
C:\Documents and Settings\user\My Documents\ไฟล์ที่ได้รับของฉัน\issarachon1101.wma
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=hiansoon

ภาพปูเสฉวนตัวหนึ่งที่ถูกพันธนาการไว้ด้วยเศษขยะใต้ทะเลอันเป็นชิ้นส่วนของขวดแก้ว

Look at this - กรรมของปู
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 มีนาคม 2553 10:17 น.
       ภาพปูเสฉวนตัวหนึ่งที่ถูกพันธนาการไว้ด้วยเศษขยะใต้ทะเลอันเป็นชิ้นส่วนของขวดแก้ว ภาพถ่ายของ Alex Marttunen เด็กชายวัย 11 ปีจากประเทศฟินแลนด์ คือหนึ่งในภาพถ่ายผลงานของเด็กและเยาวชนจากทั่วโลกที่กำลังจัดแสดง ณ Squamish Lil’ wat Cultural Centre ใกล้กับ Whistler Olympic village ในกรุงแวนคูเวอร์ สถานที่จัดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว
       
       และได้รับรางวัลจากโครงการประกวดภาพถ่าย See the Bigger Picture ที่จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิค,แอร์บัส และเลขาธิการว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อสร้างจิตสำนึกให้เยาวชนเห็นถึงความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพและผล กระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่กำลังเกิดขึ้น
       
       โดยนิทรรศการนี้จะหมุนเวียนไปจัดแสดงทั่วโลกตลอดปี พ.ศ. 2553 เนื่องในปีแห่งความหลากหลายทางชีวภาพสากล

http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9530000030624
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.thaifreedompress.blogspot.com/
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/ pwd9
http://ktblog1951.blogspot.com/ pwday
http://newsblog9.blogspot.com/ news
http://bloghealth99.blogspot.com/ health
http://labour9.blogspot.com/ labour
http://www.media4democracy.com/th/
http://www.youngtelecom.org/
http://www.logex.kmutt.ac.th/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html
http://www.asianbarometer.org/newenglish/introduction/default.htm
http://www.isriya.com/node/2809
/wordcamp-bangkok-2009-pool-party
C:\Documents and Settings\user\My Documents\ไฟล์ที่ได้รับของฉัน\issarachon1101.wma
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=hiansoon

วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ร่วมลงชื่อ"คัดค้าน"ปลดล็อกนกปรอดหัวโขนจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง !!! -ห้ามพลาด 25 ก.พ.นี้เปิดประชาพิจารณ์

วันอังคาร ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2553
ร่วมลงชื่อ"คัดค้าน"ปลดล็อกนกปรอดหัวโขนจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง !!! -ห้ามพลาด 25 ก.พ.นี้เปิดประชาพิจารณ์
Posted by OKnature , ผู้อ่าน : 242 , 15:58:27 น.  
หมวด : ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

พิมพ์หน้านี้


กำลังเป็นประเด็นฮ็อตในแวดวงอนุรักษ์ธรรมชาติทีเดียวครับสำหรับกรณีมีข้อเสนอจากกลุ่มคนเลี้ยงนก เรียกร้องให้ "ปลดล็อกนกปรอดหัวโขน(นกกรงหัวจุก)ออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง" ในชุมชนออนไลน์ต่าง ๆเริ่มมีคนโพสต์คัดค้านเรื่องนี้กันแล้ว

วันนี้ (16 ก.พ.53)   รายการ "ชุมชนคนอาสา" ทางสถานีข่าวเนชั่นแชนเนล รับอาสาตามติดประเด็นร้อน ๆ กันอีกครั้งทั้งคนที่เสนอและเสียงที่คัดค้าน มีตัวแทนจากสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย และตัวแทนสมาคมนกกรงหัวจุกแห่งประเทศไทย มาร่วมถกกันด้วยเหตุและผล ว่ากันข้อมูล ด้วยบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง

หลังจากรายการชุมชนคนอาสาเคยเปิดประเด็น ด้วยการให้ตัวแทนของกลุ่มเรียกร้องปลดล็อกนกปรอดหัวโขนออกจากบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าคุ้มครอง มาออกอากาศไปเมื่อสัปดาห์ก่อน

คลิกฟังรายงาน"ชุมชุนอาสา" ถกประเด็นร้อน ปลด! "นกปรอดหัวโขน" ออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง ภาค 2!!  กับผู้ร่วมรายการ นายพรเทพ คัดสุระ กรรมการสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย และนายกิตติพงศ์ ไทยสม กรรมการสมาคมนกกรงหัวจุกแห่งประเทศไทย  // 16 ก.พ. 53

http://www.nationchannel.com/home/news/program/ชุมชนคนอาสา/15617/

คลิกฟังตัวแทนของคนเลี้ยงนกพูดถึงข้อเสนอให้ปลดล็อกนกปรอดโขนออกจากบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าคุ้มครอง  / รายการออกอากาศไปเมื่อ  4 ก.พ. 2553

http://www.nationchannel.com/home/news/program/ชุมชนคนอาสา/15315/

๑ ขอแรงเพื่อนๆ ส่งชื่อมาร่วมคัดค้านด้วย
ทางชมรมอนุรักษ์นกและธรรมชาติล้านนา
http://www.lannabird.org/nuke/
กำลังเร่งรวบรวมรายชื่อผู้คัดค้านอยู่

ง่าย ๆ เพียงส่ง - ชื่อ - นามสกุล
และถ้าสะดวก เราขอเพิ่ม - ที่อยู่ - เบอร์โทรศัพท์ - หมายเลขบัตรประชาชน
ส่งมาที่
FreeRWB@gmail.com


๑ ห้ามพลาด !!!
คุณมีนัดกับคนรักนก เปิดประชาพิจารณ์ กรณีปลดล็อกนกปรอดหัวโขน
25 กุมภาพันธ์ 53 เวลา 09.00-16.00 น.
ณ ห้องประชุม สง่า สรรพศรี คณะวนศาสตร์ ม.เกษตรฯ

๑ ร่วมรณรงค์ผ่านทางชุมชนออนไลน์ต่าง ๆ

- ที่ TKT ... http://board.trekkingthai.com/board/webboard.php?forum_id=31

- ที่ TWS โดนปักหมุดแล้ว ... http://board.trekkingthai.com/board/show.php?forum_id=18&topic_no=198571&topic_id=201106

- ที่สมาคมนกฯ ... http://www.bcst.or.th/forum/index.php?topic=1150.0

- ที่บลูพลาเน็ต...http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8886696/E8886696.html

  - ที่บ้าน Go4Get … http://www.go4get.com/add_go4board.php?id=1760

- ที่โครงการฟ้าใส ... topic=329.0http://www.cookietalkie.com/forum/index.php?

- ที่ Savebird ... http://www.savebird.com/Forum/index.php?topic=992.50

- ที่ OKnation ... http://www.oknation.net/blog/charlee/2009/02/13/entry-2
http://www.oknation.net/blog/OKnatureclub/2010/02/05/entry-1
http://www.oknation.net/blog/charlee/2010/02/08/entry-1
http://www.oknation.net/blog/tawanyimchang/2010/02/15/entry-1

+++++++++++++++++++

หมายเหตุ : ขอขอบคุณรายการชุมชนคนอาสา ทางสถานีเนชั่น แชนเนล ที่เอื้อเฟื้อให้ใช้ข้อมูลรายการครับ

http://www.oknation.net/blog/OKnatureclub/2010/02/16/entry-1

--
โปรดอ่านบล็อก
http://www.pridiinstitute.com
http://www.nakkhaothai.com
http://twitter.com/sweetblog
http://twitter.com/oknewsblog
http://twitter.com/okblogger
http://twitter.com/sat191
http://www.pacc.go.th/
http://twitter.com/okblogchan
http://twitter.com/sun1951
http://twitter.com/smeblogger
http://twitter.com/seminarblog
http://twitter.com/sunnewsblog
http://twitter.com/okworldblog
http://twitter.com/ktblogger
http://twitter.com/sundayblog
http://twitter.com/mondayblog
http://twitter.com/tuesdayblog
http://twitter.com/wednesdayblog
http://twitter.com/thursdayblog
http://twitter.com/fridayblog
http://twitter.com/saturdayblog
http://www.youtube.com/user/naiissarachon#p/a/u/0/34ZvscsnCbA

วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553

ฝูงนกเป็ดน้ำถลาเล่นลมหนีความหนาวบินโฉบไปมาทั่วอ่างเก็บน้ำสุวรรณาภา



วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553 เวลา 19:21:44 น.  มติชนออนไลน์

ฝูงนกเป็ดน้ำถลาเล่นลมหนีความหนาวบินโฉบไปมาทั่วอ่างเก็บน้ำสุวรรณาภา

เมื่อเวลา  15.00  น  วันที่  29  มกราคม    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ได้มีฝูงนกเป็ดน้ำ ประมาณ  500  ตัว  บินโฉบวกวนเหนือท้องฟ้าชุมชนเทศบาล   สร้างความแตกตื่นให้ประชาชนก่อนบินถลาลงสู่   อ่างเก็บน้ำสุวรรณาภา   แหล่งน้ำดิบผลิตน้ำประปาให้  ชุมชนเทศบาลตำบลกังแอน   อ.ปราสาท  จ.สุรินทร์   แล้วลอยตัวระเริงเล่นอยู่บนท้องน้ำอย่างสนุกสนาน


 ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า   อ่างเก็บน้ำสุวรรณาภา  มีพื้นที่กว้างใหญ่อยู่ในเขตพื้นที่  บ้านบุเจก   บ้านปะอาว   บ้านปลุง  และบ้านตะเคียน   ต.กังแอน  ปีนี้ฟูงนกเป็ดน้ำบินเข้ามาช้ากว่าทุกปี  อันเนื่องมาจากอากาศในแถบนี้หนาวเย็น   ครั่นลมเปลี่ยนทิศ   สภาพอากาศเริ่มอบอุ่นขึ้น จึงทำให้  ฝูงนกเป็ดน้ำจาก ประเทศไซบีเรีย  บินลัดฟ้าหนีความเย็นหาความอบอุ่น


นายสำเร็จ  พูนสิรินาวิน  ปศุสัตว์อำเภอปราสาท  กล่าวว่า ฝูงนกเป็ดน้ำใน อ่างเก็บน้ำสุวรรณาภา  คงหนีมาจากแหล่งที่มีคนล่ายิงเป็นอาหาร   ( นักนิยมอาหารป่า  )  ดังนั้นเมื่อเข้ามาอยู่ในพื้นที่ต้องช่วยกันอนุรักษ์ไว้ชื่นชม  หากใครไปยิงทำร้ายจะกระทำความผิด พ.ร.บ.สัตว์ป่าสงวนคุ้มครอง     

ด้าน  นายศราวุธ  รุ่งธนเกียรติ  นายกเทศมนตรีตำบลกังแอน  อ.ปราสาท  กล่าวว่า  ได้ประกาศเสียงตามสายและมีหนังสือถึงชุมชนเทศบาล  ให้รับทราบแล้วว่า   ขณะนี้มีฝูงนกเป็ดน้ำจำนวนมากหนีความหนาวเย็นมาอาศัยอยู่ที่  อ่างเก็บน้ำสุวรรณาภา    นอกจากนี้ยังมีนกกระยางขาว   เข้ามาหาอาหารในอ่างน้ำด้วย   เมื่อไปพบเห็นฝูงนกเป็ดน้ำอย่าไล่  และอย่ายิง   ตกค่ำฝูงนกเป็ดน้ำจะไปหลับนอนในป่าหญ้ากก  

                              http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1264767742&grpid=03&catid=19

--
โปรดอ่านบล็อก
http://www.pridiinstitute.com
http://www.nakkhaothai.com
http://twitter.com/sweetblog
http://twitter.com/oknewsblog
http://twitter.com/okblogger
http://twitter.com/sat191
http://www.pacc.go.th/
http://twitter.com/okblogchan
http://twitter.com/sun1951
http://twitter.com/smeblogger
http://twitter.com/seminarblog
http://twitter.com/sunnewsblog
http://twitter.com/okworldblog
http://twitter.com/ktblogger
http://twitter.com/sundayblog
http://twitter.com/mondayblog
http://twitter.com/tuesdayblog
http://twitter.com/wednesdayblog
http://twitter.com/thursdayblog
http://twitter.com/fridayblog
http://twitter.com/saturdayblog

วิวาทะแนวทางการเมืองสีเขียว



วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553 เวลา 23:52:08 น.  มติชนออนไลน์

วิวาทะแนวทางการเมืองสีเขียว

โดย... เกษียร เตชะพีระ

การที่บรรดาชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกมัวแต่ผัดผ่อนและล้มเหลวครั้ง แล้วครั้งเล่าที่จะตกลงลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อแก้ภาวะโลกร้อน โดยยอมแบกรับภาระต้นทุนผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นบ้าง อันมีกรณีการประชุมสุดยอดที่โคเปนเฮเกนปลายปีที่แล้วเป็นตัวอย่างล่าสุดนั้น นอกจากชวนหดหู่หมดหวังแล้ว ก็ยังบ่งชี้ความสัมพันธ์อันมัดแน่นแกะไม่ออกระหว่างปัญหาสิ่งแวดล้อมของโลก กับ [ระบบการผลิตที่อาศัยเชื้อเพลิงฟอสซิลหรือซากดึกดำบรรพ์ + เศรษฐกิจอุตสาหกรรม + สังคมบริโภคนิยม] ด้วย


ประเด็นนี้ก่อความแตกต่างขัดแย้งทางความคิดในขบวนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระหว่าง : -


1) ฝ่ายที่เล็งการณ์ร้ายว่าอารยธรรมมนุษย์ดังที่เป็นอยู่นี้เกินแก้ไขเยียวยา มิสู้ปล่อยให้มันล่มสลายไปเลยดีกว่า แล้วค่อยสร้างขึ้นมาใหม่หมด กับ


2) ฝ่ายที่เห็นว่าหากนิ่งดูดายปล่อยไปเช่นนั้น จะเกิดต้นทุนความสูญเสียแก่มนุษยชาติสูงเกินรับไหว ดังนั้นถึงไงก็ต้องพยายามมองโลกในแง่ดี ยืนหยัดต่อสู้ผลักดันให้รัฐบาลนานาชาติและชาวโลกเปลี่ยนแปลงแก้ไขวิถีการ ผลิตและบริโภคทางเศรษฐกิจเพื่อหลีกเลี่ยงหายนะที่จะมาถึง


ไม่นานมานี้ ปัญญาชนนักเคลื่อนไหวชั้นแนวหน้าของขบวนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในอังกฤษ 2 คน คือ พอล คิงส์นอร์ธ กับ จอร์จ มองบิโอต์ ผู้เป็นตัวแทนแนวคิด 2 ฝ่ายดังกล่าว ได้เปิดฉากวิวาทะกันเรื่องนี้ทางจดหมายผ่านเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์เดอะกา ร์เดียน ต่างนำเสนอแง่คิดมุมมองข้อถกเถียง การประเมินสถานการณ์ และวิเคราะห์วิจารณ์ทางออกที่เป็นไปได้อย่างน่าสนใจชวนพินิจพิจารณา ในฐานะที่นับวันมันจะกลายเป็นประเด็นระเบียบวาระทางนโยบายรูปธรรมสำคัญเร่ง ด่วนใกล้ตัวทั้งระดับสากลและในประเทศ ดังเช่นกรณีมาบตาพุด/มาบตาพิษ เป็นต้น

 


ผมจึงใคร่ขอนำมาถ่ายทอดเสนอต่อตามลำดับดังนี้.....

 

จดหมายฉบับที่ 1

 

จอร์จเพื่อนรัก,

 

 


บนโต๊ะข้างหน้าผมเป็นกราฟชุดหนึ่ง แกนราบของกราฟแต่ละรูปแสดงปี ค.ศ.1750 ถึง 2000 กราฟต่างๆ เหล่านี้แสดงให้เห็นระดับประชากร, ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สะสมในชั้นบรรยากาศ, การจับสัตว์น้ำจากการประมง, การตัดไม้ทำลายป่าเขตร้อน, การบริโภคกระดาษ, จำนวนรถยนต์, การใช้น้ำ, อัตราการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต และยอดผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของเศรษฐกิจมนุษย์ทั้งหมด


สิ่งที่สะกดความคิดจิตใจผมเกี่ยวกับกราฟพวกนี้ (ซึ่งปกติแล้วกราฟจะไม่ค่อยสะกดความคิดจิตใจผมเท่าไหร่) ก็คือถึงแม้พวกมันจะแสดงเรื่องราวแตกต่างกันสารพัด แต่กลับมีรูปร่างแทบเป็นพิมพ์เดียวกัน นั่นคือเส้นกราฟจะเริ่มจากซีกซ้ายของหน้าแล้วค่อยๆ ไต่สูงขึ้นขณะเคลื่อนไปทางขวา และพอถึงระยะราวหนึ่งนิ้วก่อนสุดหน้า-ซึ่งตกราวปี ค.ศ.1950 ตามแกนราบของกราฟ-เส้นก็จะหักเหพุ่งขึ้นบน เหมือนเวลานักบินหันหัวเครื่องบินโผขึ้นสูงเพื่อหลบหน้าผาที่จู่ๆ ก็โผล่ออกมาจากก้อนเมฆที่เขาคิดว่าว่างเปล่า


รากเหง้าของแนวโน้มทั้งปวงในกราฟเหล่านี้เป็นสิ่งเดียวกัน นั่นคือเศรษฐกิจ มนุษย์ที่ตะกละตะกลามซึ่งกำลังนำพาโลกไปจ่อริมเหวของความโกลาหลอลหม่านอย่าง ว่องไว เราเองก็รู้เรื่องนี้ พวกเราบางคนกระทั่งพยายามหยุดมันไว้ไม่ให้เกิดขึ้น แต่กระนั้นแนวโน้มดังกล่าวกลับยังเลวร้ายลงต่อไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งไม่มีสัญญาณเลยว่ามันจะเปลี่ยนแปรเป็นอื่นในเวลาอันใกล้ สิ่งที่กราฟเหล่านี้แสดงให้เห็นชัดกว่าอื่นใดก็คือความเป็นจริงอันเลือดเย็น ว่าการล่มสลายอย่างร้ายแรงกำลังจะมาถึง


แต่กระนั้นก็มีพวกเราน้อยคนเหลือเกินที่พร้อมจะจ้องมองดูเรื่องราว ความเป็นจริงดังกล่าวนี้อย่างซื่อๆ ตรงๆ ขณะที่มันกรีดร้องบอกเราว่า อารยธรรมซึ่งเราร่วมเป็นส่วนหนึ่งอยู่ด้วยนั้นกำลังพุ่งเข้าใส่กำแพงกันชน ด้วยความเร็วเต็มพิกัด และสายเกินไปแล้วที่จะหยุดมัน แทนที่จะยอมรับความจริงที่ว่านั้น พวกเราส่วนใหญ่-ซึ่งผมเหมารวมขบวนการสิ่งแวดล้อมกระแสหลักมากมายไว้ด้วย -กลับยังยึดติดอยู่กับวิสัยทัศน์ที่เห็นอนาคตเป็นแค่สภาพปัจจุบันที่ปรับ ปรุงดีขึ้นเท่านั้นเอง เรายังคงเชื่อ "ความก้าวหน้า" แบบที่ลัทธิเสรีนิยมตะวันตกนิยามไว้อย่างมักง่าย เรายังคงเชื่อว่าเราจะสามารถดำรงชีวิตอยู่อย่างสบายๆ แบบที่เคยอยู่มาได้ต่อไป (แม้จะต้องมีแหล่งผลิตไฟฟ้าด้วยกังหันลมมากขึ้นและมีหลอดไฟคุณภาพดีขึ้นบ้าง ) ขอเพียงแต่เราอ้าแขนโอบรับ "การพัฒนาที่ยั่งยืน" มาเร็วพอ, อีกทั้งยังเชื่อด้วยว่าเราจะสามารถขยาย "การพัฒนาที่ยั่งยืน" ไปยังประชากรอีก 3 พันล้านคนที่จะถือกำเนิดมาสมทบกับเราบนดาวเคราะห์ที่อึดอัดจนหายใจไม่ค่อย ออกอยู่แล้วใบนี้ในเวลาอันสั้น


ผมคิดว่านี่เป็นการปิดหูปิดตาปฏิเสธ ความเป็นจริง เห็นสัญญาณกันโทนโท่แล้วว่าสังคมอุตสาหกรรมไปไม่รอด และไม่ว่าจะช็อปปิ้งกันอย่างมีจริยธรรมสำนึกเพียงใดหรือปักใจประท้วงเด็ด เดี่ยวแค่ไหนก็ไม่มีทางเปลี่ยนมันได้แล้วตอนนี้ หากเอาอารยธรรมที่ตั้งอยู่บนมายาการเรื่องมนุษย์เป็นข้อยกเว้นพิเศษไม่ เหมือนใครกับท่าทีที่หยั่งลึกทางวัฒนธรรมต่อ "ธรรมชาติ" เป็นตัวตั้ง, บวกด้วยความเชื่อเรื่องความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและวัตถุอย่างหลับหูหลับตา, แล้วจุดเชื้อขับเคลื่อนทั้งหมดนั้นด้วยแหล่งพลังงานซึ่งกว่าจะค้นพบว่ามันมี ลักษณะทำลายล้างฉิบหายวายวอดก็หลังจากที่เราได้ใช้มันเพิ่มทวีจำนวนผู้คนและ กิเลสโลภของเราจนสายเกินแก้แล้ว ลองผสมผสานทั้งหมดนั้นเข้าด้วยกันแล้วคุณว่ามันจะได้อะไรหรือ? เรากำลังเริ่มพบคำตอบต่อคำถามนั่นแล้วตอนนี้


เราต้องเลิกงี่เง่าได้แล้ว การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังจวนเจียนจะถึงจุดสายเกินแก้เต็มที ขณะพวกผู้นำของเรายังพากันตีฆ้องร้องป่าวให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้นอีก ระบบเศรษฐกิจที่เราพึ่งพาอยู่นั้นไม่อาจกำราบมันให้เชื่องได้โดยที่มันไม่ พังพินาศลงไป ทั้งนี้เพราะมันอาศัยการเติบโตที่ว่านั่นแหละจึงจะดำเนินงานได้ และเอาเข้าจริงมีใครหน้าไหนบ้างอยากกำราบมันให้เชื่อง? คนส่วนใหญ่ในโลกที่ร่ำรวยจะไม่ยอมเสียสละรถยนต์หรือวันหยุดของตนโดยไม่สู้รบ ปรบมือสักตั้งหรอก


มีบางคน-ซึ่งอาจเป็นคุณด้วย-เชื่อว่า ไม่ควรพูดสิ่งเหล่านี้ออกมาต่อให้มันจริงก็ตามเพราะขืนพูดคนจะหมด  "หวัง" และหากสิ้นหวังแล้ว ก็ไม่มีโอกาสจะ "กอบกู้ดาวเคราะห์โลก"  ได้ แต่ความหวังลมๆ แล้งๆ มันเลวร้ายกว่าหมดหวังเสียอีก ส่วนเรื่องการกอบกู้ดาวเคราะห์โลกน่ะ-เอาเข้าจริงที่เรากำลังพยายามจะกอบกู้ ระหว่างตะเกียกตะกายติดตั้งกังหันลมบนภูเขาและตะโกนด่าพวกรัฐมนตรีนั้นไม่ ใช่ดาวเคราะห์โลกหรอก แต่คือการยึดมั่นถือมั่นวัฒนธรรมเชิงวัตถุของตะวันตกต่างหาก ซึ่งเราจินตนาการไม่ออกว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรถ้าไม่มีมัน


สิ่งท้าทายเราไม่ใช่เรื่องที่ว่าจะค้ำจุนจักรวรรดิซึ่งกำลังเสื่อม สลายลงด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังคลื่นและการประชุมสุดยอดระดับโลกอย่างไร แต่เป็นประเด็นที่ควรเริ่มคิดได้แล้วว่าเราจะเอาตัวรอดการล่มจมของจักรวรรดิ อย่างไร และเราจะสามารถเรียนรู้อะไรจากการล่มสลายของมันได้บ้าง
ด้วยปรารถนาดี


พอล

                              http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1264773309&grpid=no&catid=02

--
โปรดอ่านบล็อก
http://www.pridiinstitute.com
http://www.nakkhaothai.com
http://twitter.com/sweetblog
http://twitter.com/oknewsblog
http://twitter.com/okblogger
http://twitter.com/sat191
http://www.pacc.go.th/
http://twitter.com/okblogchan
http://twitter.com/sun1951
http://twitter.com/smeblogger
http://twitter.com/seminarblog
http://twitter.com/sunnewsblog
http://twitter.com/okworldblog
http://twitter.com/ktblogger
http://twitter.com/sundayblog
http://twitter.com/mondayblog
http://twitter.com/tuesdayblog
http://twitter.com/wednesdayblog
http://twitter.com/thursdayblog
http://twitter.com/fridayblog
http://twitter.com/saturdayblog