ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)
Bookmark and Share

วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2552

กรีนพีซเปิดตัวศิลปะบนนาข้าวอินทรีย์ เรียกร้องถึงอนาคตแห่งความมั่นคงทางอาหาร

 
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 กันยายน 2552 17:48 น.
ศิลปะบนนาข้าวเกษตรอินทรีย์ที่จังหวัดราชบุรี (กรีนพีซ)
       กรีนพีซ - กรี นพีซเปิดตัวภาพศิลปะบนนาข้าวอินทรีย์ เพื่อสะท้อนถึงความภูมิใจในข้าวไทย พร้อมย้ำเตือนรัฐบาลให้ร่วมปกป้องข้าวไทยอันเป็นสมบัติของชาติจากการดัดแปลง พันธุกรรม และภัยคุกคามอันร้ายแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
       
       ศิลปะบนนาข้าวอินทรีย์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 10 ไร่ แสดงภาพชาวนาสวมงอบกำลังเกี่ยวข้าว สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวนาไทย ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ภาพศิลปะดังกล่าวเกิดจากความร่วมแรงร่วมใจของชาวนาในจังหวัดราชบุรี สมาชิกกรีนพีซ อาสามัคร และนักกิจกรรมของกรีนพีซ ร่วมปลูกข้าว 2 สายพันธุ์ นั่นคือ พันธุ์ชัยนาท 1 ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวเจ้าชนิดไม่ไวแสง ลำต้นและกาบใบมีลักษณะสีเขียวเมื่อนำมาปักดำจะให้สีเขียวเป็นพื้นหลังของภาพ และพันธุ์ก่ำพะเยา ซึ่งให้สีดำ จนสามารถสร้างสรรค์เป็นภาพชาวนาและลวดลายต่างๆบนผืนนา
       
       “ประเทศไทยเป็นประเทศผู้นำในการเพาะปลูกข้าว และยังเป็นอู่ข้าวของโลก หากชาวไทยทุกคนร่วมกันปกปักรักษาสายพันธุ์ข้าวดั้งเดิมของประเทศ กรีนพีซเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นผู้นำด้านการเพาะปลูกข้าวด้วย วิธีเกษตรกรรมยั่งยืน วิธีที่ดีที่สุดก็คือการปกป้องข้าวไทยให้พ้นจากเทคโนโลยีที่เสี่ยงอย่างจี เอ็มโอ และมุ่งสู่การทำเกษตรกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่นอกจากจะให้ผลผลิตที่ ดีแล้ว ยังไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสารเคมีที่เป็นอันตราย” นางสาวณัฐวิภา อิ้วสกุล ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านเกษตรกรรมยั่งยืน กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว
       
       กรีนพีซเรียกร้องให้รัฐบาลต่อต้านพืชจีเอ็มโอ หรือพืชดัดแปลงพันธุกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวจีเอ็มโอ เนื่องจากจีเอ็มโอไม่เคยได้รับการพิสูจน์ใดๆว่ามีความปลอดภัยต่อการบริโภค ของมนุษย์ ซ้ำร้ายยังทำลายวิถีชีวิตชาวนาไทย และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้ นอกจากนี้จีเอ็มโอยังส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ กระตุ้นการปลูกพืชเชิงเดี่ยว และยังเป็นตัวการที่ทำให้ผลผลิตข้าว ที่แต่เดิมได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอยู่แล้วนั้นให้มี ปริมาณลดลง (1)
       
       ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ของโลก เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา กรีนพีซนำความภาคภูมิใจในข้าวไทยมาสู่คนไทยทั้งประเทศ เมื่อกินเนสส์เวิร์ลด์ เรคคอร์ด ได้ออกประกาศนียบัตรยกย่องให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ส่งออกข้าวมากที่สุดใน โลก พร้อมเรียกร้องให้ชาวไทยร่วมปกป้องข้าวไทยให้ปลอดจากการดัดแปลงพันธุกรรม
       
       ในวันนี้ กรีนพีซได้เปิดตัวศิลปะบนนาข้าวอินทรีย์ ณ จังหวัดราชบุรี ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่บนที่ราบตอนกลางของประเทศ ที่ราบตอนกลางของไทยเป็นพื้นที่ที่มีการผลิตข้าวได้มากที่สุดในประเทศและใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
       
       เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา องค์กรพัฒนาเอกชนหลากหลายองค์กรได้ร่วมจัดแถลงการณ์เปิดตัวโครงการรณรงค์ Tcktcktck ในเอเชียแปซิฟิก (2) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเรียกร้องให้มีการลงมือแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศอย่างจริงจัง ไดน่าห์ ฟูเอ็นเตสฟิน่า โฆษกโครงการรณรงค์ Tcktcktck กล่าวว่า “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นผู้นำโลกในด้านการทำเกษตรกรรม แต่ในขณะเดียวกัน ยังเป็นภูมิภาคที่มีความเสี่ยงต่อผลกระทบจากวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิ อากาศมากที่สุด” กรีนพีซ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการรณรงค์ Tcktcktck ได้เรียกร้องให้ผู้นำโลกออกกฎบัตรและข้อตกลงที่เป็นธรรมด้านการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศในการประชุมสุดยอดว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กรุง โคเปนเฮเกนประเทศเดนมาร์กในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ทั้งนี้เพื่อปกป้องความมั่นคงของอนาคตภูมิภาค
       
       ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (An Asian Development Bank หรือ ADB) ได้เปิดเผยการศึกษาในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา (3) ว่า หากยังขาดการลงมือปฏิบัติในระดับโลก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูกข้าว อย่างเช่น ในประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ประเทศไทยและเวียดนาม โดยอาจจะส่งผลกระทบให้ผลผลิตข้าวที่ได้ลดลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ภายในปี พ.ศ. 2643 เมื่อเทียบกับปริมาณที่ผลิตได้ในปี 2533
       
       “70 เปอร์เซ็นต์ของผู้ประสบปัญหาความยากจนในโลกนี้ พบในพื้นที่เกษตรกรรม ที่ซึ่งเกษตรกรพึ่งพาฝนตามฤดูกาลในการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยว หากพื้นที่เพาะปลูกได้รับฝนมากหรือน้อยเกินไปก็จะทำให้ผลผลิตเหล่านั้นเสีย หายได้ โลกควรระลึกเสมอว่าเกษตรกรรมเป็นภาคที่มีความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศ ดังนั้นรัฐบาลจึงควรสนับสนุนและวางกลยุทธ์โดยใช้วิธีการทำเกษตรกรรมที่ ยั่งยืน” ฟูเอ็นเตสฟิน่า กล่าวเสริม
       
       “ภาพศิลปะบนนาข้าวนี้เป็นสัญลักษณ์กระตุ้นและย้ำเตือนรัฐบาลว่าข้าว ไทยกำลังถูกคุกคามและควรได้รับการปกป้องอย่างเร่งด่วน หยาดเหงื่อและความร่วมมือของชุมชน เกษตรกร และอาสาสมัครกรีนพีซ ที่ร่วมสร้างสรรค์ศิลปะบนนาข้าวอินทรีย์นี้ แสดงให้เห็นทางออกเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร นั่นคือ การทำเกษตรกรรมอินทรีย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ นอกจากนี้ยังเป็นทางออกของการแก้ปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อันจะนำมาซึ่งการปกป้องอนาคตของคนรุ่นหลังต่อไป” ณัฐวิภา กล่าวเสริม
       
       กรีนพีซ ทำงานรณรงค์ด้วยหลักการเผชิญหน้าอย่างสันติวิธี นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทัศนคติ และพฤติกรรม เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม และสันติภาพ กรีนพีซรณรงค์เพื่อต่อต้านพืชจีเอ็มโอรวมทั้งผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนผสมของ พืชจีเอ็มโอทั้งหมด ซึ่งเป็นกลไกสำคัญบนหลักการของความยั่งยืน ทั้งนี้เพื่อปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ และให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงอาหารที่มีคุณค่าและปลอดภัย การดัดแปลงพันธุกรรมเป็นเทคโนโลยีที่ล้าสมัยและไม่เป็นที่ต้องการของสังคม โลกอีกทั้งยังทำลายความหลากหลายทางชีวภาพ และสร้างความเสี่ยงให้กับผู้บริโภค
http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9520000100935

--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
blog
http://ktblog1951.blogspot.com/ monday
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น