ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)
Bookmark and Share

วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

The Necessities of Life โลกที่กำลังเลือนหาย

วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11460 มติชนรายวัน


The Necessities of Life โลกที่กำลังเลือนหาย


คอลัมน์ อาทิตย์เธียเตอร์

โดย พล พะยาบ http://aloneagain.bloggang.com




ต้นทศวรรษ 1950 ขณะที่วัณโรคยังระบาดหนัก ครอบครัวชาวเอสกิโมบนเกาะบาฟฟิน ส่วนหนึ่งของดินแดนนูนาวุตทางเหนือของแคนาดาได้รับผลกระทบไปด้วย เมื่อคนขาวที่มากับเรือลำใหญ่เกณฑ์พวกเขาขึ้นมาตรวจหาเชื้อ หากใครเป็นวัณโรคจะต้องอยู่บนเรือต่อไปเพื่อส่งต่อให้สถานพยาบาลหลายแห่งบนแผ่นดินใหญ่ กระทั่งหลายครอบครัวต้องพลัดพรากจากกัน

ทีวี คือหนึ่งในผู้ติดเชื้อ เขาเป็นหัวหน้าครอบครัวที่มีเมียและลูกสาวตัวน้อย 2 คน ต้องดูแล การถูกกักตัวจึงไม่ได้หมายถึงการพลัดพรากเท่านั้น แต่ปากท้องของสมาชิกครอบครัวที่ใช้ชีวิตอิงอยู่กับวิถีธรรมชาติจะต้องขาดที่พึ่งพิงไปด้วย

หลังจากอยู่บนเรือนาน 3 เดือน ทีวีถูกพามายังสถานพยาบาลในควิเบค เขาถูกตัดผม สวมเสื้อผ้าชุดใหม่ ต้องกินอาหารไม่คุ้นปาก พักรวมกับผู้ป่วยหลายคนซึ่งล้วนแต่เป็นคนขาว ทุกคนพูดภาษาฝรั่งเศส ไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่ทีวีพูด เช่นเดียวกับที่เขาไม่อาจเข้าใจใครได้เลย

ด้วยร่างกายที่ป่วยไข้ ความรู้สึกแปลกแยกกับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย อีกทั้งความห่วงกังวลว่าครอบครัวจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร อาการของทีวีจึงทรุดหนักลง ยิ่งหลังจากที่เขาหนีออกไประหกระเหิน ผจญกับอากาศเลวร้ายหลายวันก่อนถูกตามตัวกลับมา

ยังดีที่ คาโรล นางพยาบาลใจดีซึ่งดูแลทีวีตระหนักว่าความป่วยไข้ร้ายแรงกว่าวัณโรคที่คุกคามทีวีคือ ความแปลกแยกและความห่วงกังวลถึงครอบครัว เธอจึงช่วยให้เขาได้คุยโทรศัพท์กับเมีย ได้กินอาหารตามแบบที่เคยกิน ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังวิ่งเต้นพา คาคิ เด็กชายชาวเอสกิโมซึ่งป่วยเป็นวัณโรคเช่นกันจากสถานพยาบาลต่างเมืองมาอยู่ที่นี่เพื่อเป็นเพื่อนพูดคุยกับเขา และคอยเป็นล่ามสื่อสารกับคนอื่นๆ



คาคิเป็นเด็กกำพร้าซึ่งไม่มีญาติชาวเอสกิโมเหลืออยู่อีกแล้ว เขาเข้ารักษาในสถานพยาบาลตั้งแต่ 2 ปีก่อน ทำให้พูดภาษาฝรั่งเศสได้และเริ่มกลมกลืนกับคนขาว ในฐานะที่เป็นชาวเอสกิโมคนแรกและคนเดียวซึ่งทีวีรู้จักที่นี่ อีกทั้งทีวีเองไม่มีลูกชาย คาคิจึงได้รับความรักใคร่เอ็นดูจากทีวีมากเป็นพิเศษ

ทีวีเล่าเรื่องราวน่าตื่นเต้นมากมายของชาวเอสกิโมให้คาคิฟัง ทั้งวิถีชีวิตดั้งเดิมอย่างการล่าสัตว์ ตำนาน-นิทานเก่าแก่ ทั้งยังแกะชิ้นไม้เป็นของเล่นให้คาคิ แต่ละวันของทีวีมีความหมายมากขึ้นจนเขาตั้งใจว่าเมื่อได้กลับบ้าน ณ ดินแดนน้ำแข็ง เขาจะพาคาคิกลับไปด้วยในฐานะลูกชาย

The Necessities of Life หรือ Ce qu"il faut pour vivre หนังปี 2008 ตัวแทนแคนาดาชิงออสการ์หนังภาษาต่างประเทศในรอบปีที่ผ่านมา ผลงานกำกับฯของ เบอนัวต์ ปีลง ใช้ภาษาฝรั่งเศสและภาษาอินุคติตุตซึ่งเป็นภาษาของชาวเอสกิโมหรือ "ชาวอินูอิต" ตามคำเรียกที่ใช้ทั่วไปในแคนาดา

ทุกฉากทุกตอนถูกจัดเรียงอย่างมีน้ำหนักผ่านการถ่ายภาพและดนตรีประกอบเพื่อให้เป็นดรามาติดตรึงอารมณ์ โดดเด่นด้วยการแสดงของ นาตาร์ อุนกาลัก ในบททีวีกระทั่งคว้ารางวัลนักแสดงนำชายจากหลายเวทีในแคนาดา อย่างไรก็ตาม น้ำหนักที่จัดวางอย่างตั้งใจในทุกๆ บทตอนทำให้ภาพรวมดูแน่นหนักจนขาดสีสัน ส่งผลต่ออารมณ์ร่วมและความประทับใจเมื่อดูหนังจบ

แก่นสารของหนังไม่ใช่แค่บอกเล่าช่วงเวลายากลำบากของชาวเอสกิโมผู้เป็นวัณโรคและต้องพลัดพรากจากครอบครัวมาอยู่ในโลกห่างไกล หากยังนำเสนอการต่อสู้เพื่ออยู่รอดของวิถีดั้งเดิมซึ่งกำลังถูกดูดกลืนด้วยอิทธิพลของโลกศิวิไลซ์ที่มีคนขาวเป็นเจ้าของ

ตัวละครทีวีและครอบครัวอันประกอบด้วยเมียและลูกสาวคือตัวแทนของชาวเอสกิโมตามวิถีดั้งเดิมที่ยังดำรงอยู่บนความหวาดหวั่นเปราะบางท่ามกลางโลกภายนอกที่กำลังไล่รุกรุนแรงยิ่งกว่าพายุหิมะ การไม่มีลูกชายมีความหมายถึงภาวะไร้การสืบทอด เมื่อเรือลำใหญ่ของคนขาวมาเยือนพร้อมกับกวาดต้อนชาวเอสกิโมขึ้นเรือเพื่อเอ็กซเรย์หาเชื้อราวกับสำรวจตรวจสอบอย่างทะลุปรุโปร่ง ครอบครัวก็ถูกจับแยกจากกัน

วัณโรคที่เป็นเหตุแห่งเรื่องราวทั้งหมดมีคำเรียกอย่างหนึ่งว่า White Plague แปลตรงตัวว่า "โรคระบาดขาว" จึงสอดรับกับแก่นสารดังกล่าวโดยตรง (คำว่า White Plague หมายถึงโรคระบาดที่ทำให้ผู้ป่วยตัวซีดขาว แต่มักถูกใช้อย่างเจาะจงว่าหมายถึงวัณโรค)

เมื่อทีวีถูกตัดผม ต้องใส่เสื้อผ้าแบบคนขาว กินอาหารแบบคนขาว ห้อมล้อมด้วยคนผิวขาวที่พูดคนละภาษากับเขา ความเป็นเอสกิโมจึงถูกลดคุณค่าลงจนเป็นแค่สิ่งแปลกปลอม

ตลอดทั้งเรื่องเราจะไม่ได้เห็นวิถีชีวิตของชาวเอสกิโมในแบบที่ดำรงอยู่จริงๆ นอกจากผ่านคำบอกเล่าอันน่าภาคภูมิใจของทีวี ไม่ว่าจะเป็นการล่ากวางคาริบูในอดีตที่ต้องใช้อุบายและความสามัคคีของชาวเอสกิโม ตำนาน-ความเชื่อต่างๆ ภาพวาดและไม้แกะสลักรูปสัตว์ ราวกับว่าทั้งหมดนี้ไม่เหลืออยู่แล้วในโลกแห่งความจริง

คาคิคือส่วนเติมเต็มที่ช่วยทีวีอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป เด็กน้อยเลือนลบความแปลกแยก ภาษาที่เคยไร้ความหมายเพราะไม่มีใครเข้าใจถูกโต้ตอบและมีความหมายขึ้นมา นั่นเท่ากับความเป็นเอสกิโมปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในโลกที่แตกต่าง

การเติมเต็มที่คาคิมอบให้กับทีวีไม่ใช่แค่การใช้ชีวิตอยู่ในสถานพยาบาลได้อย่างสบายใจขึ้น แต่เด็กน้อยยังเป็นเหมือนลูกชายที่ทีวีไม่เคยมี ลูกชายผู้จะสืบเผ่าพันธุ์และสืบทอดวิถีแห่งความเป็นเอสกิโมให้คงอยู่ต่อไป ทีวีจึงถ่ายทอดเรื่องราวของเอสกิโมให้คาคิฟัง ค่อยๆ ดึงเขาออกจากโลกของคนขาวที่เริ่มดูดกลืนเป็นส่วนหนึ่ง จนถึงขั้นตอนสุดท้ายคือการรับเลี้ยงคาคิและพากลับไปยังดินแดนน้ำแข็ง...โลกเฉพาะที่ชาวเอสกิโมอย่างเขามุ่งหวังถึงการดำรงชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น

แม้รู้ทั้งรู้ว่ายังต้องเผชิญกับโรคร้ายต่อไปก็ตาม

หน้า 22

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น